การดูแลคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์

การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ ถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ นั่นก็คือการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพให้แข็งแรง ทั้งภายใน และภายนอก รวมไปถึงสภาพจิตใจที่จะต้องสมบูรณ์อีกด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งผลโดยตรงต่อทารกในครรภ์ที่จะมีสุขภาพดี และแข็งร่างกาย ปัจจัยการใช้ชีวิต และการดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์จึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ เพราะฉะนั้นการที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หันมาดูแล และใส่ใจตัวเอง ด้วยเทคนิคที่เหมาะสม ที่คุณแม่ควรปฏิบัติก็จะทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าทารกใครรภ์จะมีสุขภาพที่ดีตามไปด้วยได้อย่างแน่นอน

การฝากครรภ์ทันที จะส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยทั้งแม่ และทารก

เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ สิ่งแรกเลยนั่นก็คือควรรีบไปฝากครรภ์ในทันที เพราะจะได้ทำการตรวจสุขภาพทั้งของตัวคุณแม่ และทารกภายในครรภ์ แถมยังจะได้รับคำแนะนำ และวิธีการดูแลครรภ์อย่างถูกต้อง เพื่อให้มีความปลอดภัยทั้งคุณแม่ และทารกในครรภ์ เพราะการวางแผนการดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง ถือว่าจะเป็นโยชน์โดยตรงที่คุณแม่ และทารกจะสามารถสัมผัสได้เป็นอย่างดี

การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ ด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์

โดยปกติแล้วคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จำเป็นจะต้องได้รับการบำรุง และต้องได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งพลังงานที่เหมาะสมกับผู้หญิงทั่วไปจะอยู่ที่ 1,750 กิโลแคลอรี แต่สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จำเป็นต้องได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ และพลังงานที่เพียงพอต่อทารกภายในครรภ์ เพื่อให้มีน้ำหนักพอดี มีการเจริญเติบโตทั้งร่างกาย และสมองได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งการดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ ด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์เหล่านี้จะส่งผลโดยตรงทั้งคุณแม่ และทารกภายในครรภ์ สำหรับสารอาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ได้แก่

  • โปรตีนมีความสำคัญต่อการสร้างเซลล์ของทารกในครรภ์ ช่วยให้เจริญเติบโต มาจาก โปรตีนจากสัตว์ ได้แก่ ไข่ นม เนยแข็ง เนื้อสัตว์ และปลา
  • คาร์โบไฮเดรตอาหารจำพวกแป้ง แต่ควรเลือกบริโภคข้าวไม่ขัดสีแทนข้าวขาว ขนมปังโฮลวีท ไม่ควรรับประทานน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา และหลีกเลี่ยงอาหารหวาน
  • ใยอาหารจากผักและผลไม้ช่วยป้องกันอาการท้องผูก ทั้งยังได้วิตามินพร้อมด้วยแร่ธาตุต่างๆ ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงครรภ์ และสร้างกระบวนการเจริญเติบโตให้กับทารกในครรภ์ เช่น มะละกอสุก ส้ม กล้วย มะพร้าว ฝรั่ง มะนาว ขิง เป็นต้น
  • แคลเซียมช่วยในการเสริมสร้างกระดูก และรักษาความหนาแน่นของกระดูก ใน 1 วัน ต้องได้รับแคลเซียมอย่างน้อยวันละ 1,000-1,300 มิลลิกรัม โดยอาหารที่มีแคลเซียม เช่น นม โยเกิร์ต ชีส ปลาตัวเล็กตัวน้อย กุ้งฝอย ธัญพืช เป็นต้น
  • ไอโอดีนเป็นสารอาหารที่สำคัญช่วยพัฒนาระบบประสาทของทารกในครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับไอโอดีนอย่างน้อย 250 ไมโครกรัมต่อวัน จากอาหารทะเล หรืออาหารที่ปรุงรสด้วยผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีน เช่น น้ำปลา ซอสถั่วเหลือง เป็นต้น
  • ธาตุเหล็กเพื่อป้องกันภาวะโลหิตจาง และเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ไข่แดง เนื้อสัตว์สีแดง เครื่องในสัตว์ ผักสีเขียวเข้ม เลือด งา ถั่วแดง เป็นต้น
  • กรดโฟลิกป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทและสมองของทารกในครรภ์

การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นพื้นฐานการดูแลเบื้องต้น โดยที่สามารถศึกษาจากผู้ที่มีความชำนาญ ก็จะทำให้สามารถออกโปรแกรมการรับประทานอาหารที่ดี เพื่อให้คุณแม่ และทารกในครรภ์ มีสุขภาพที่แข็งแรง และมีพัฒนาการที่ดีได้นั่นเอง