ฝนตกเฉอะแฉะ เปียกไปหมดทั้งตัว ยิ่งบางคนต้องเดินลุยน้ำทั้งตอนเช้า และตอนเย็น และที่สำคัญน้ำที่ลุยก็เป็นน้ำสกปรก เป็นแหล่งรวมเชื้อโรคต่างๆ เป็นต้นเหตุของโรคเท้าเปื่อย เชื้อราที่เล็บและเท้า การดูแลเท้าในช่วงหน้าฝนจึงมีความสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและติดเชื้อที่มากับน้ำ
การดูแลสุขภาพเท้าในหน้าฝน
การเดินลุยน้ำขังอยู่บ่อยๆ เสี่ยงต่อการเป็นโรค จึงควรใส่ใจดูแลเท้า ด้วยวิธีดังนี้
1.ทำความสะอาดเท้าทุกวัน ทำความสะอาดด้วยสบู่และล้างออกด้วยน้ำสะอาด หลังจากนั้นใช้ผ้าที่สะอาดและนุ่ม เช็ดเท้าให้แห้งทุกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณซอกนิ้วเท้า
2.สำรวจเท้าอย่างละเอียดทุกวัน ว่ามีแผล หนังด้านแข็ง ตาปลา รอยแตก หรือสิ่งผิดปกติที่อาจมีอยู่ใต้ฝ่าเท้าหรือไม่
3.ห้ามแช่เท้าในน้ำอุ่น ไม่ควรแช่เท้าในน้ำอุ่นหรือใช้อุปกรณ์ให้ความร้อน เช่น กระเป๋าน้ำร้อนวางบนเท้าเป็นเวลานาน
4.ทาโลชั่น ควรทาโลชั่นหลังทำความสะอาดเท้าให้ทั่ว แต่ควรหลีกเลี่ยงการทาบริเวณซอกนิ้วเท้า เนื่องจากจะก่อให้เกิดการอับชื้นได้ง่ายโดยเฉพาะผู้ที่มีซอกนิ้วเท้าเบียดกัน ส่วนผู้เป็นเบาหวานมักมีผิวหนังค่อนข้างแห้ง อาจทำให้เกิดอาการคันและเกิดแผลตามมาได้ ควรใช้โลชั่นหรือครีมทาบาง ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แต่ควรเป็นโลชั่นที่ซึมซับเข้าสู่ผิวหนังได้รวดเร็วเพื่อป้องกันการลื่นล้ม
5.สวมถุงเท้า หลังจากทาโลชั่นเรียบร้อยแล้วควรสวมถุงเท้าเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังและลดการเสียดสี โดยเลือกใช้ถุงเท้าที่ไม่มีตะเข็บ ไม่รัดแน่นจนเกินไปและเปลี่ยนถุงเท้าทุกวัน
6.สวมรองเท้าเสมอ โดยเลือกรองเท้าที่มีขนาดพอดี ไม่หลวมหรือคับจนเกินไปทั้งขณะเดินภายในบ้านและนอกบ้าน ไม่ควรเดินเท้าเปล่า
7.หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าแตะ ไม่ควรสวมรองเท้าแตะแบบที่ใช้นิ้วเท้าคีบหรือรองเท้าที่ทำด้วยยางหรือพลาสติก เพราะจะทำให้มีโอกาสเกิดการเสียดสีเป็นแผลได้ง่าย
8.ควรตัดเล็บเท้าให้สั้น ควรทำความสะอาดเล็บด้วยการตัดให้พอประมาณตามแนวขอบเล็บ โดยไม่ตัดเล็บลึกถึงจมูกเล็บ
9.หากพบความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ หากมีหนังด้านแข็ง หูดหรือตาปลา หรือความผิดปกติอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา ไม่ควรทำด้วยตนเอง
10.ผู้เป็นเบาหวานควรตรวจเท้าประจำ สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานควรได้รับการตรวจเท้าอย่างละเอียดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือมากกว่าตามความเหมาะสม
การหลีกเลี่ยงไม่ให้เดินลุยน้ำเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดปัญหาการติดเชื้อโรค แต่หากไม่สามารถเลี่ยงได้เพียงทำตามที่แนะนำอย่างสม่ำเสมอ โอกาสที่จะเกิดโรคก็จะน้อยลงได้คะ
