แมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ หนึ่งในแมวสายพันธุ์ที่แปลก และมีราคาที่แพงเป็นอย่างมาก ซึ่งจุดเด่นของแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ นั่นก็คือเป็นแมวที่ไร้ขน ที่ถึงแม้ว่าจะดูจากภายนอกแล้วเหมือนจะไม่มีขน แต่ความเป็นจริงแล้วแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ มีจนที่นุ่มเป็นอย่างมาก มีความละเอียดที่ปกคลุมอยู่ทั่วร่างกาย ให้ความสัมผัสที่คล้ายๆ กับเปลือกลูกพีช แมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ จะเป็นแมวที่ไม่มีหนวด และขนตา หัวมีรูปทรงคล้ายกับหัวของแมวเดวอน เร็กซ์ ซึ่งเป็นรูปทรงที่มีความโดดเด่น และแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร รูปร่างจะค่อนข้างบอบบาง แต่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ อกหนา ขาเรียว ซึ่งแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ จะเป็นแมวที่มีอุณหภูมิที่ค่อนข้างอุ่นเมื่อถูกสัมผัส จึงมีฉายาว่า กระเป๋าน้ำร้อนเดินได้ นอกจากนี้ผิวหนังยังมีสีคล้ำที่สามารถสังเกตจากภายนอกได้อย่างชัดเจน
ลักษณะนิสัยของแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์
แมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ ถือว่าเป็นแมวที่เข้าสังคมได้เก่งมากๆ มีความซุกซน แต่ก็เป็นมิตร ถึงแม้จะมีรูปร่างที่หยิ่งผยอง แต่ชอบที่จะให้คนเข้ามาสนใจ ซึ่งแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ ถือว่าเป็นสัตว์ที่จะรอต้อนรับเจ้าของเมื่อกลับมาถึงบ้านเสมอ มักจะขี้อ้อนให้เจ้าของสนใจ ซึ่งอุณหภูมิร่างกายของแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ จะสูงมากกว่าแมวทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 1 – 2 องศา แต่เห็นตัวเล็กแบบนี้ถือว่าเป็นแมวที่กินเก่งระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพื่อเป็นการชดเชยความร้อนที่สุญเสียไปจากร่างกาย เพราะฉะนั้นเจ้าของไม่ควรทิ้งแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ เอาไว้ในบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็น เพราะแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ ไม่สามารถทนต่ออากาศที่หนาวจัดได้เพราะเป็นแมวที่มีความฉลาด ขี้เล่น คุยเก่ง เพราะฉะนั้นจึงเป็นสายพันธุ์ที่สามารถทำการฝึกฝนได้เป็นอย่างดี
ประวัติของแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์
แมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ หรือแมวไร้ขน ถือว่าเป็นแมวที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน จากข้อมูลที่มีการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรได้บอกเอาไว้ว่า ชาวแอซเท็คก็เลือกแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ด้วยเช่นกัน โดยที่แมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ เป็นสานพันธุ์แรกที่มีการเพาะพันธุ์โดยตรงเพ่อให้ได้ลักษณะดังล่าว โครงการการเพาะพันธุ์เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1966 เกิดขึ้นในรัฐออแทรีโอ ประเทศแคนนาดา ที่ได้มีบ้านเพื่อให้กำเนิดลูกค้าเพศผู้ไร้ขนตัวหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แมวสาย8พันธุ์ สฟิงซ์ ในปัจจุบันทั้งหมดก็มีเชื้อสายโดยตรงมาจากลูกค้าไร้ขนสามตัวในเมืองโทรอนโต ที่เกิดขึ้นมาภายในปี ค.ศ. 1979 นั่นเอง
แมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ ถือว่าเป็นแมวสายพันธุ์พิเศษ ที่ควรได้รับการดูแล และเอาใจใส่เป็นอย่างดี เพราะโดยปกติแล้วแมวสายพันธุ์ดังกล่าวมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพผิวหนัง รวมไปถึงอาการผื่นคัน และเชื้อรา ส่งผลโดยตรงมาจากที่ไม่มีขนนี่แหละ เพราะฉะนั้นเจ้าของควรต้องปกป้องผิวของแมวสายพันธุ์ สฟิงซ์ให้เป็นอย่างดี เพื่อเป็นการป้องกันอาการอักเสบนั่นเอง